เครื่องลาง ขอขลัง

ตอนนี้กำลังรวบรวมรูปเครื่องลางขอขลัง ของเก่าแก่ ที่หาดูได้ยากและมีไม่กี่องค์ มีทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน มาให้ชมกันอย่างไม่มีที่สินสุด รอดูนะคับ

วัดพระพุทธบาท4รอย

วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่






คำบูชาพระพุทธบาทสี่รอยนะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)สาธุ สาธุ โกสัมพิยัง อะวิทูเร เวภาระ ปัพพะเต กกุสันโธ โกนาคะมะโนกัสสะโป โคตะโม ปาทะ เจติยัง ชินะธาตุ จะฐะ เปตวา อะหัง วันทามิ ทูระโตคำแปลสาธุ สาธุ ข้าพเจ้าขอวันทา นมัสการเจดีย์ คือรอยพระพุทธบาท และพระชินธาตุเจ้าทั้งหลายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า พระกกุสันโธ โกนาคะมะโน กัสสะโปและพระสิทธัตถะ โคตะโม ที่ประดิษฐานตั้งไว้ ณ. ภูเขาเวภารบรรพตนี้ ตลอดกาลนานเทอญ

วิธีอาราธนา “พระพลังจิต” ตอนเช้าให้สวดมนต์ไว้พระ ตั้งนะโม 3 จบ สวด อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ แล้วนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อาราธนาบารมีของท่าน ลงมาเป็นเกราะเพชรคลุมกายเรา ภาวนา "พุทโธ" ให้ใจสบาย แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกวัน อานุภาพของยันต์เกราะเพชร จะคุ้มครองรักษา ให้ท่านมีความปลอดภัยทุกประการ... ผู้ที่อาราธนาติดตัวไว้เสมอจะมีอานุภาพดังนี้ ๑. จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด ๒. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด ๓. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด ๔. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง

พระพุทธบาท4รอย ห้วยตึงเฒ่า เขื่อนแม่งัด น้ำตกสายหมอก วันเด่น เวียงกุมกาม

ตำนานพระพุทธบาท 4 รอยเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจารึกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจัยตะประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา เวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขา เวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ , พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ , พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตรเป็นประธานเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด พระพุทธองค์จึงตรัสตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ทุกๆ พระองค์ และแม้นว่าพระศรีอริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ และจักประทับรอยพระบาท 4 รอยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือประทับลบรอยทั้ง 4 ให้เหลือรอยเดียว ) เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระทาบของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ จึงเกิดเป็นพระพุทธบาท 4 รอย เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิษฐานว่าในเมื่อ (เรา) ตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทที่นี่ ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว 2000 ปี พระพุทธบาท 4 รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงชนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปเชตุวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาท 4 รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงมาแล้วประมาณ 2000 วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาท 4 รอย ปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพต อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ของชาวบ้าน ( คนป่า ) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็คิดตามไปค้นหาดู แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้น แต่เห็นรอยพระพุทธบาท 4 รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผู้นั้นก็ทำการสักการะบูชาเสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่บ้านก้เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟัง ข้อความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆ กันไปแรกแต่นั้น คนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่าพระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว) ในสมัยนั้นมีพระยาคนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาท 4 รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับสู่งเมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย แล้วลูกหลายที่สืบราชสมบัติก็เจริญรอยตามและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท 4 รอย ทุกๆ พระองค์ หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พระพุทธบาทสี่รอย เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึง4 รอย มาในสมัยยุคหลังคนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่าพระพุทธบาทสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้ คือ1 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก2 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก3 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ เป็นรอยที่ 3 ยาว 9 ศอก4 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กสุดยาว 4 ศอกเมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือก ผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คน ก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาท 4 รอย และได้สร้างพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราวโดยแต่เดิมถ้าใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไป หรือปืนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นพระยาธรรมช้างเผือกจึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆนั่งร้านรอบๆ ก้อนหินที่มีพระพุทธบาท สี่ รอย เพื่อที่ผู้หญิงจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทด้วย และได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไปกราบนมันสการพระพุทธบาท 4 รอย และได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหาร เป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้ 1 หลัง หลักเล็ก ปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง จะเหลือไว้แค่ผนังวิหาร พื้นวิหารและแท่นพระซื่งยังเป็นของเดิมอยู่พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้าพระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่และได้ลาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพุทธศาสนาไปตลอดกาลนาน


ขอขอบคุณ http://board.palungjit.com/ ที่ให้ข้อมูล

น้ำตกแม่สาเชียงใหม่


น้ำตกแม่สา เชียงใหม่
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของอำเภอแม่ริมครับ น้ำตกแม่สาแห่งนี้แบ่งเป็นชั้น ๆ ขึ้นไปตามเชิงเขาถึง 8 ชั้น ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ ทำให้สภาพอากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดปี เป็นสถานที่พักผ่อนที่ได้รับ ความนิยมมากทั้งชาวเชียงใหม่เองและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนครับ


น้ำตกแม่สามีทั้งหมด 5 ชั้น
ทางเข้าน้ำตกแม่สา
น้ำตกแม่สา ชั้นที่ 1

น้ำตกแม่สา ชั้นที่ 2

น้ำตกแม่สา ชั้นที่ 3
น้ำตกแม่สา ชั้นที่ 4

น้ำตกแม่สา ชั้นที่ 5




น้ำตกแม่ยะ เชียงใหม่




น้ำตกแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่
น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ มีความสวยงามติดอันดับหนึ่งในสิบยอดน้ำตกของ ประเทศไทย สายน้ำจะไหลลงมาตามหน้าผาสูงชันราว 280 เมตร กระทบโขดหินเป็นชั้น ๆ เหมือนม่านน้ำ แล้ว ไหลลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำใสเบื้องล่าง สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย รอบ ๆ บริเวณเป็นป่าเขาร่มรื่นเงียบสงบ
ปริมาณน้ำมากมายมหาศาลของน้ำตกแม่ยะ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนั้น เกิดจากต้นน้ำในผืนป่าสูงบนยอดดอยอิน ทนนท์ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย นอกจากน้ำตกแม่ยะแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปเที่ยวชม ความงดงามของน้ำตกอื่น ๆ บนดอยอินทนนท์ได้อีก รวมทั้งศึกษาธรรมชาติในป่าดึกดำบรรพ์บริเวณอ่างกาหลวง ซึ่งทางอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางไว้ให้




เป็นน้ำตกในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง เพราะน้ำซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน 280 เมตร ลงมากระทบโขดหินเป็นชั้นๆ เหมือนม่าน แล้วลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำใสเย็นเหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งบริเวณรอบๆ น้ำตกเป็นป่าเขาอันสงบเงียบ และมีศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวตั้งอยู่ด้วย บริเวณน้ำตกสะอาดและจัดการพื้นที่ได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม การเดินทาง จากทางแยกเข้าทางหลวง 1009 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไป 14 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 200 เมตร


สวยมากคะน้ำตกใสๆยากให้เพื่อนมาเที่ยวกันเยอะๆ มาแล้วช่วยกันดูแลสภาพของธรรมชาติด้วยนะคะ อย่าทิ้งเศษอาหารลงในน้ำเก็บใส่ถุงแล้วทิ้งถังขยะนะคะ



ถ่ายรูปตรงนี้วิวสวยคะมาชั้นบนสุดของน้ำตกคะ

ตกปลาอ่างแม่หาด

อ่างห้วยป่าซางออน หรือ เรียกกันจนติดปาก ว่าอ่างแม่หาดตั้งอยู่หมู่บ้านแม่หาด ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูนเปิด-ปิด เป็นระยะสำหรับปลา มีหลากหลายชนิด ยี่สก,นวลจันทร์,เพี้ย,นิล,จีน,สหวาย,ใน,ตะเพียน และอื่นๆส่วนอาหารที่ใช้ตก จำพวก เหม๋ยเขียว เหม๋ยแดง และ เฟิร์สเขียว ไฮเกรด เป็นต้นครับผม.



พี่มายูมิ โชว์ ยี่สกไซ้ 4 กิโลมาให้พวกเราได้ชมกันเป็นตัวแรกของทริปนี้





ทริปนี้ได้ปลายี่สกไซ้ 4-5 กิโล ไม่ผิดหวังและปลานิจจาอีกเพียบ





มีสาวสวยมาให้กำลังใจกันด้วยน้อง ส้มโอ ขวัญใจที่หลวง...( อิอิ )..


น่าตาคนหล่อ สมาชิก Panda Fishing Team ยังมีอีกมากวันหลังจะเอารูปมาฝาก

ตกปลาอ่างแม่อี่ไฮ

อ่างแม่อี่ไฮ เป็นอีกอ่างหนึ่งที่นักตกปลาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนมาจะเป็น ปลานิลทั้งเล็กและใหญ่ๆ 1-2 หรืออาจขึ้น 3กิโล สำหรับปลานิลอ่างนี้
ยี่สก ก็ไม่ธรรมดา 4-5-6 จนถึง 10 กว่าโล แต่ส่วนมาก ได้ตัวยาก เพราะยี่สกอ่างนี้ มีความแรงมากๆ บวกกับตอใต้น้ำเยอะมากๆ เหมือนกันครับ

ช่อน สำหรับอ่างนี้ก็เยอะอีกเหมือนกันขนาดใหญ่ๆ ก็มีเยอะ ปลาปู่ก็มีให้ตก
สำหรับอ่างแม่อี่ไฮ มือสะปิ๋วส่วนมากรู้จักกันดีครับผม
การเดินทาง จากตัวเมืองลำพูน ออกไปทาง อ.บ้านโฮ่ง อ.ลี้ จะมีอยู่สองอ่างที่โด่งดัง สิ้นสุดหมู่บ้านสุดท้ายของ อ.บ้านโฮ่ง จะเป็นบ้านแม่หาด จะเป็นอ่างแม่หาด



เลยจากอ่างแม่หาด ไปอีกนิดหน่อย ทางขวาจะเป็นตลาดขายของป่า และเป็นหมู่บ้านแรกของ อ.ลี้ บ้านแม่อี่ไฮ จะเป็นอ่าง แม่อี่ไฮ
อ่างทั้งสองอ่างถ้าจาก ตัวเมืองลำพูนไป ประมาณ 80-90กิโลเมตร เลี่ยวซ้ายทั้งสองอ่างครับผม....
ภาพต้องขยาดดูครับ



เที่ยวแพเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง




เที่ยวเขื่อนกื่วลมรีสอร์ท ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม สงบ กระแสร์น้ำ สายลมแสงแดด ด้วยระยะทางเพียง 30 กิโลเมตรเศษ เส้นทาง เอเฃียสาย 1 กรุงเทพ - เชียงราย กม. ที่ 623-624เลี้ยวฃ้ายเช้าเขื่อนกิ่วลมอีก 14 กม. ณ. ที่นั่น แพชาวเขื่อนกิ่วลมรีสอร์ท ได้ถูกบรรจงสร้างขึ้นเพื่อบริการท่าน ท่ามกลางภูเขา แม่น้ำวังอันเย็นฉ่ำ ระหว่างการล่องแพด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม โขดหินเกาะแก่ง ไม้นานาพรรณ นกร้องก้องราวป่าและกลุ่มหมอกขาวที่ลอยตัวเหนือน้ำในช่วงฤดูหนาวยิ้งเพิ่มความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเป็นยิ่งนัก "แพชาวเขื่อน"ที่รู้ใจจะพาท่านสู่ "กิ่วลมรีสอร์ท" บรรยากาศเหมือนฝันแห่งนั้น สงบ ห้องพักสอาด มีทั้งห้องรวมสำหรับหมู่คณะและห้องเดี่ยวส่วนตัว อาหารและเครื่องดื่มก็พร้อมที่จะบริการแขกผู้มีเกียรติของท่านอย่างเป็นกันเอง ปีนเขา ตกปลา เข้าถ้ำและแค้มป์ไฟ เป็นรายการที่แนะนำท่านได้เป็นอย่างดี การสั่งจองล่วงหน้ายิ่งจะทำให้การจัดเตรียมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นตั้งแต่การเดินทางเข้าเขื่อน การจัดเตรียมแพ ที่พัก แค้มป์ไฟ อาหารเครื่องดื่ม " แพชาวเขื่อนกิ่วลมรีสอร์ท" ยินดีต้อนรับท่านเสมอ ทุกเวลา

เขื่อนกิ่วลมสร้างเสร็จราว 30 กว่าปี โดยกรมชลประทาน กั้นและเก็บกักน้ำแม่วังของเมืองลำปาง เมื่อสร้างเขื่อนเสร็จจึงกลายเป็นทะเลสาปที่กว้างใหญ่ เก็บกักน้ำได้ถึง 112 ล้านลูกบาศน์เมตร เพื่อช่วยเหลือการเกษตรของชาวลำปาง สภาพเหนือเขื่อนกิ่วลมจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมีศักยภาพโดดเด่น มีความลงตัวพอดีอย่างที่สุด ไม่ว่าระดับน้ำที่มีความพอดีสามารถที่จะทำให้มีการล่องแพได้ตลอดปีไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน ร้อน หนาว ระยะทางก็ไม่ไกลเกินไปจากตัวเมืองลำปาง ถนนหนทางก็สภาพดี ระยะทางการล่องแพก็มีความปลอดภัยและพอดีกับเวลา ไม่ว่าจะเป็นการล่องแพในวันเดียว หรือการพักค้างคืน1-2 คืน ธรรมชาติรอบข้างที่เอื้ออำนวย อากาศดีตลอดทุกฤดูกาล ไม่ร้อนมาก และหนาวมาก......บ้านพักกลางเกาะที่สร้างเพื่อขานรับกับสิ่งแวดล้อมทเพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะในปัจจุบันและในอนาคต การพักผ่อนอย่างแท้จริงหลายรูปแบบ ไม่ว่าการพักหลับนอนในเรือนแพเพื่อการกลับมาสู่สัมผัสกับธรรมชาติ การพักบ้านพักอิงธรรมชาติ จนถึงนออเเต้นท์เพื่อการสู่ความแปลกใหม่อึกรูปแบบ อาหารทุกมื้อปรุงกันอย่างสดๆ กับอาหารที่มาจากธรรมชาติใกล้ตัว ปลาสดๆกุ้งแม่น้ำ จากแม่น้ำวัง นำมาเป็นอาหารรสเลิศ รสชาดระดับ ชาวเขื่อน ทุกอย่าง สามารถสร้างโปรแกรมตามความต้องการของสมาชิกได้ทุกรูปแบบ.............................ขอขอบคุณที่ท่านเข้ามาเยี่ยมเวปเรา ขาวเขื่อน..www. paechaokhuen.tht.in เราเรียกตัวเองว่า ชาวเขื่อน ชาวเขื่อนจากเรื่องสั้นพ้อคเก้ทบุ๊คอันโด่งดังในอดีต ของนักเขียนชั้นแนวหน้าของเมืองไทย " มนันยา " ชุดชาวเขื่อน เอแมนคอลท์เป๋ง ลาก่อนกิ่วลม คงจะอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ นักอ่านในอดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านสามารถพบกับชาวเขื่อนกับทีมงาน กับการบริการท่องเที่ยวที่นี่ล่องแพกิ่วลม......


เรือนแพหลายขนาดที่จะนำพาท่านท่องเที่ยวไปกับสายน้ำแม่วังอย่างมีความสุขอย่างสุนทรีย์ปราศจากความวุ่นวายมีควาสงบกับความสุขที่ใกล้ชิดตลอดเวลา บรรยากาศที่ท่านนานๆจะได้สัมผัสจากการตราตรำกับงานประจำวันที่หนักหน่วง การพักผ่อนแบบนี้จะทำให้ท่านคลายความกังวลทุกชนิดที่สะสมมา ธรรมชาติกับชีวิตเป็นของคู่กันมาตลอดกาลแม้ว่าอารมณ์จิตใจของท่านจะท่องเที่ยวเที่ยวไกลแสนไกลสูงสุดเพียงใด ในที่สุดก็จะถึงจุดที่เรียกร้องและเข้าหาธรรมชาติ สิ่งที่ไม่มีการปรุงแต่งการเกิดขึ้นของธรรมชาติทั้งหลายเป็นการเกิดขึ้นเอง และยึนนานอย่างไม่มีการเบื่อหน่าย

ตะวันตกดินที่เขาร้อยยอด ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มุมมองที่ ก่วลมรีสอร์ท ที่ท่านสามารถชมได้ด้วยตัวท่านเอง สวยสุดบรรยายไม่ว่าจะบันทึกด้วยความทรงจำหรือการบันทึกด้วยกล้องถ่ายรูปคู่ชีพของท่าน บนแพ ชาวเขื่อน ที่พักกิ่วลมรีสอร์ท ทุกยามเย็นท่านมาเยือนได้ตลอดเวลา บ้านพักกิ่วลมรีสอร์ททุกหลัง แบบฉบับ บ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อการพักผ่อนเหมือนบ้านของท่าน แม้อาจจะไม่หรูหรา หรือสวยงามใหญ่โต แต่คือการสร้างสรรเพื่อการให้กลมกลืนกับธรรมชาติรอบข้าง ณ. แห่งนี้.

ทะเลสาบดอยเต่า


ดอยเต่า ชื่อนี้คงไม่ต้องบอกว่าอยู่ภาคไหน เพราะคำว่า “ ดอย “ มันบอกทนโท่แล้วว่า เป็นภาคเหนือแน่นอน ดอยแปลว่าภูเขา แล้วคำว่าดอยเต่าละ หมายถึงอะไร จะบอกว่าเป็นดอยที่มีเต่า ฟังดูก็ประหลาด เพราะธรรมชาติของเต่าคงไม่อยู่บนดอยแน่นอน และเต่าคงไม่ใช่สัตว์ที่ชอบอากาศหนาวแน่
ผมก็ขึ้นต้นบทนำที่นึกอะไรไม่ค่อยจะออก นึกไม่ออกยังไม่พอ กลับนึกไม่ออกว่าดอยเต่า มันหมายความว่าอะไร คำว่าเต่าที่เป็นสัตว์นั้นคงไม่ใช่แน่ หรือว่ามาจากคำว่า “ เตา ” ก็อาจเป็นไปได้ที่ตามแม่น้ำลำห้วยทางภาคเหนือ จะมีสาหร่ายเป็นเส้นยาวๆสีเขียวเกาะตามโขดหิน เป็นอาหารพื้นเมืองที่มีคุณค่าโภชนาการสูงมาก และจากเตาก็เพี้ยนมาเป็นเต่า
จะถูกจะผิดก็ต้องขออภัยด้วย เพราะวันนี้เขียนอะไรไม่ค่อยออก ก็เลยขอวอร์มอัพให้มือมันอุ่นขึ้นมาก่อน
อำเภอดอยเต่า อำเภอฮอด และอำเภอสะเมิง เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อนี้ แต่ถ้าเป็นคนเชียงใหม่แล้วอาจจะร้องว่า ” อยู่...ปู้น.......(ออกเสียงปู้นให้ยาวๆ) ” ความหมายก็คืออยู่ไกลมาก จนคนพูดอาจส่ายหัวไปด้วยเพราะทั้งไกล และเดินทางลำบาก ต้องเดินทางขึ้นเขาข้ามดอยกันหลายลูกกว่าจะไปถึง
หลายคนเคยไปมาแล้ว และเข็ดกันมาแล้ว บางคนถึงขนาด อ๊วกแตก อ๊วกแตน เพราะเมารถ ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ก็คนในบ้านผมเองนี่แหละ ที่หลายปีก่อนเคยไปเที่ยวสะเมิง และฝากอาหารในท้องไว้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเรียบร้อยมาแล้ว
ดอยเต่า ถ้าย้อนอดีตไปไม่กี่ปีมานี้ ก็ยังถือว่าเป็นถิ่นทุรกันดาร เดินทางกันเป็นวันๆ กว่าจะมาถึงเชียงใหม่ พูดกันภาษาชาวบ้านก็คือบ้านนอกเราดีๆนี่เอง ที่นั่นเป็นถิ่นของชาวเขาที่อพยพมาจากภูเขาตอนล่างของทะเลสาบเหนือเขื่อนภูมิพล

หลังจากสร้างเขื่อนเสร็จแล้วในปี 2510 น้ำในอ่างเก็บน้ำก็ค่อยๆสูงขึ้นๆ จนกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ขาวเขาจึงต้องย้ายมาอยู่ที่สูง มารวมกลุ่มกันที่ดอยเต่า โดยรัฐบาลเข้ามาจัดหาที่อยู่อาศัยให้ ช่วงนั้นดอยเต่ายังเป็น ส่วนหนึ่งของอำเภอฮอด แล้วก็แยกออกมาเป็นกิ่งอำเภอดอยเต่า และเป็นอำเภอดอยเต่าในเวลาต่อมา
ปัจจุบันดอยเต่ามีการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมทะเลสาบกันมาก เพื่อนั่งเรือชมทัศนียภาพทางธรรมชาติ ทานปลาจากทะเลสาบและนอนค้างคืนบนแพ ในแพนั้นมีคาราโอเกะให้เราทุกคนได้ร้องกันอย่าสนุก บรรยากาศนั้นไม่ต้องพูดถึงต้องลองมาดูด้วยตัวเองถึงจะรู้(ไม่อยากจะบอก...สุดยอด)
ข้อมูลการเดินทาง
ดอยเต่าอยู่ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 125 กม. มาตามถนนหมายเลข 61867
อัตราค่าเช่าแพ (ราคาเมื่อปี 2544)
แพขนาดใหญ่(สำหรับ 20 คน) : ราคาปกติ 800 บาท ช่วงเทศกาลราคา 1500 บาท(เช้าไปเย็นกลับ) แต่ถ้าค้างคืนราคา 1800 บาท แพขนาดเล็ก( 8-9 คน) : ราคาปกติ500-600 บาท ช่วงเทศกาลราคา 800 บาท(เช้าไปเย็นกลับ) แต่ถ้าค้างคืนราคา 1000 บาทบนแพจะมีห้องน้ำ ห้องนอน ซึ่งมีทั้งเตียง ผ้าห่ม หมอน มุ้ง และมีบริเวณไว้ให้ทำกิจกรรมนอกจากนี้ยังมีเครื่องครัวให้สำหรับทำอาหารรับประทานเองหรือจะสั่งอาหารจากแพก็ได้โดยราคาอาหารเท่ากับราคาเมนูในร้าน โดยไม่คิดค่าส่ง และยังมีเครื่องเสียงไว้บริการอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการชมทัศนีย์ภาพบริเวณรอบทะเลสาบ
บริการเรือนำเที่ยวซึ่งสามารถจุคนได้ 60-70 คนโดยคิดราคาเป็นชั่งโมง ชั่วโมงละ 1000 บาท แต่ถ้าหลายชั่วโมงราคาจะลดลงถ้าเป็นช่วงเทศกาลจะคิดเป็นรายหัว โดยถ้าจำนวน 30 คนขึ้นไป จะคิดคนละ 25 บาทติดต่อแพธารทอง 053-469030 หรือ 081-9511503

เที่ยวอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง




อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 112,187.5 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง มีฝนตกชุกในเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34 องศาเซลเซียส
สถานที่ที่มีผู้นิยมมาท่องเที่ยว ได้แก่

จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง อยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก มองเห็นดอยเชียงดาว คอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ และในช่วงปลายฤดูหนาวดอกไม้กำลังบานสวยงามมาก

หมอกที่เกิดที่นี่คือ หมอกที่เกิดขึ้นในหุบเขา (Radiation Fog) เนื่องจากเวลากลางคืนในหุบเขาอุณหภูมิจะลดต่ำลง ทำให้เกิดการกลั่นตัวเป็นละอองน้ำ และปรากฏเป็นทะเลหมอกในเวลาเช้าหรือหลังฝนตก
การเดินทาง ไปยังอุทยานฯ จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร ถึงตลาดแม่มาลัย อ.แม่แตง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 สายเชียงใหม่-ปาย อีกประมาณ 65 กิโลเมตร ถึงด่านตรวจอุทยานฯ ซึ่งอยู่ด้านขวามือเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ และหากเดินทางต่อไปอีก 1 กิโลเมตร ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือเดินทางโดยรถประจำทางจากสถานีขนส่งเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-ปาย อัตราค่าโดยสาร 40 บาท/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

ห้วยน้ำรู หรือ ดอยสามหมื่น ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว มีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ ทัศนียภาพสวยงาม และชมการปลูกกาแฟและไม้ผลเมืองหนาว

การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้ถนนสายเชียงใหม่-ห้วยน้ำดัง และเลยเข้าไปทางห้วยน้ำดังอีก 20 กิโลเมตร ทางยังไม่ลาดยางใช้ได้เฉพาะฤดูแล้งเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีบ้านพักแต่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน ที่ส่วนอนุรักษ์ต้นน้ำ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2579 7586-7


นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกห้วยน้ำดัง โป่งน้ำร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น


ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯมีบ้านพักบริการ รวมทั้งสถานที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ที่ 5 ตำบลกี๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50300 โทร. 0 5347 1669 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th










ขอขอบคุณ http://www.sadoodta.com/ ที่ให้ข้อมูล